10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567)

10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด

อยากเก็บหุ้นธนาคาร แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตัวไหนดี ? วันนี้ THAI BANK REVIEW มี 10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567) มาฝากค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจหุ้นธนาคาร แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะลงตัวไหนดี และยังไม่รู้ว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นอะไรให้น่าลงทุนบ้าง THAI BANK REVIEW ได้รวบรวมหุ้นธนาคารที่น่าลงทุนมาให้แล้วค่ะ.

  • หุ้นธนาคาร คืออะไร
  • หุ้นกลุ่มธนาคาร มีอะไรบ้าง ?
  • ข้อดี – ข้อเสีย การลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร
  • หุ้นธนาคาร จ่ายปันผล อย่างไร ?
  • 10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567)

หุ้นธนาคาร คือ อะไร

หุ้นธนาคาร คือ หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และประกอบกิจการเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์ หุ้นธนาคารถือเป็นหุ้นที่มี Market Cap ขนาดใหญ่ โดยการลงทุนในหุ้นธนาคารจะได้รับผลตอบแทนเป็นการปันผลในรูปแบบต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งส่วนต่างของราคาหุ้น ซึ่งมีการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ ถือได้ว่าเป็นหุ้นที่มีความมั่นคงในระดับสูง เป็นหุ้นที่นักลงทุนบุคคล และนักลงทุนสถาบันต่าง ๆ ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ

หุ้นกลุ่มธนาคาร มีอะไรบ้าง ?

หุ้นกลุ่มธนาคาร เป็นหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง และเป็นหุ้นที่มีสถานะการเงินที่ดีและมั่นคง เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่น ๆ หุ้นกลุ่มธนาคารจะได้รับกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ในเครือของธนาคาร โดยเราสามารถเลือก หุ้นธนาคารไทย ได้ดังนี้

  1. หุ้น BAY ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  2. หุ้น BBL ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  3. หุ้น CIMBT ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
  4. หุ้น CREDIT ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)
  5. หุ้น KBANK ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  6. หุ้น KKP ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
  7. หุ้น KTB ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  8. หุ้น LHFG บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
  9. หุ้น SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  10. หุ้น TCAP บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
  11. หุ้น TISCO บริษัท ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
  12. หุ้น TTB ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)

ข้อดี – ข้อเสีย การลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร

ข้อดี

  1. มีความมั่นคงค่อนข้างมาก เนื่องจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
  2. ธนาคารได้รับการดูแลจากธนาคารกลาง ทำให้หุ้นในกลุ่มธนาคารมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย
  3. ได้รับปันผลสม่ำเสมอ เพราะธนาคารมีนโยบายให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องกังวล เนื่องจากธนาคารมีรายได้จากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการทำธุรกรรมอยู่ตลอด
  4. หุ้นในกลุ่มธนาคารมีความมั่นคงมาก มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ
  5. ซื้อหุ้นธนาคาร เราสามารถซื้อ – ขายได้ง่ายบนตลาดหลักทรัพย์

ข้อเสีย

  1. ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ
  2. ความเสี่ยงด้านนโยบายการเงิน
  3. ความเสี่ยงการผิดนัดชำระของลูกหนี้ธนาคาร
  4. ความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น นโยบายภาครัฐ การเมือง หรือการบริหาร

หุ้นธนาคาร จ่ายปันผล อย่างไร ?

หุ้นธนาคาร ปันผล ขั้นตอนการจ่ายปันผลของธนาคาร จะเริ่มจาก การประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นประชุมเพื่อพิจารณาการอนุมัติจ่ายเงินปันผล หลังจากนั้นจะประกาศจ่ายเงินปันผล โดยทางบริษัทจะประกาศการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ผู้ถือหุ้น จะมีการจ่ายภายใน 1 เดือน นับจากวันที่ผู้ประชุมถือหุ้นอนุมัติ และ ขั้นตอนการจ่ายเงินปันผล จะเป็นการโอนเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือหุ้นโดยตรงค่ะ

การจ่ายเงินปันผลของหุ้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • การจ่ายปันผลทั่วไป

    • การจ่ายปันผลเป็นเงินสด การจ่ายปันผลในรูปแบบเงินสด นักลงทุนจะได้รับเงินปันผลเป็นเงินสด ซึ่งเงินส่วนนี้จะได้มาจากกำไรของบริษัท
    • การจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ เงินปันผลที่นักลงทุนได้รับจะอยู่ในรูปแบบของหุ้น ซึ่งแตกต่างจากการจ่ายปันผลเป็นเงินสด
  • การจ่ายปันผลตามช่วงเวลา การจ่ายปันผลตามช่วงเวลาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง

    • การจ่ายปันผลประจำปี
      • ธนาคารจะจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนทุกปีหลังปิดงบการเงิน ซึ่งอัตราการจ่ายปันผล ก็จะขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัท สภาพเศรษฐกิจ และนโยบายของบริษัทค่ะ
    • การจ่ายปันผลระหว่างกาล
      • ธนาคารจะจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนเพิ่มเติม นอกเหนือจากเงินปันผลประจำปี โดยจะมีการจ่ายเงินปันผลเมื่อบริษัทมีกำไรมาก หรือ เมื่อบริษัทต้องการที่จะระดมทุนเพิ่มเติม

10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567)

การจัดอันดับหุ้นธนาคาร ตัวไหนดี 2567 เป็นเพียงการเรียงลำดับจาก มูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ อ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจลงทุน จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้นธนาคาร ทั้งผลประกอบการของบริษัท แผนการดำเนินงานของบริษัทที่เราจะเลือกลงทุน มูลค่าหุ้นในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายของรัฐ และความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย หรือแม้แต่ความเสี่ยงด้านอัตราการแลกเปลี่ยนค่ะ THAI BANK REVIEW ได้จัดอันดับ 10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567) พร้อมรายละเอียดข้อมูลสำคัญไว้ให้เพื่อน ๆ ที่เป็นนักลงทุนมือใหม่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกธนาคารไหนดี ได้พิจารณาเกี่ยวกับหุ้นธนาคารแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็นรายได้รวม กำไรสุทธิ อัตราการปันผล และเงินปันผลในปัจจุบัน ตามมาดูกันเลยค่ะ

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

1.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น BBL

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 257,693.79 ล้านบาท
  • P/E : 6.13 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 5.19 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 5.00 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 64,122.43 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 10,523.65 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 16.58 %

2.ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น KBANK

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 299,719.94 ล้านบาท
  • P/E : 6.64 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 5.19 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 6.00 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 79,334.09 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 13,485.72 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 18.09 %

3.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น SCB

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 345,128.50 ล้านบาท
  • P/E : 7.88 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 10.09 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 7.84 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 52,951.94 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 11,281.02 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 21.42 %

4.บริษัท ทิสโก้ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น TISCO

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 76,261.50 ล้านบาท
  • P/E : 10.53 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 8.14 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 5.75 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 6,130.56 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 1,733.02 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 28.27 %

5.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น TTB

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 172,216.19 ล้านบาท
  • P/E : 8.83 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 5.91 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 0.06 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 24,743.25 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 5,333.79 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 21.56 %

6.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น KTB

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 241,785.86 ล้านบาท
  • P/E : 6.43 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 5.02 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 0.87 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 51,814.61 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 11,078.45 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 23.17 %

7.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น KKP

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 37,892.53 ล้านบาท
  • P/E : 7.79 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 6.70 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 1.75 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 9,354.41 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 1,506.02 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 16.11 %

8.บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น TCAP

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 48,235.78 ล้านบาท
  • P/E : 7.11 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 6.96 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 2.00 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 4,338.15 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 1,762.10 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 44.36 %

9.บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น LHFG

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 18,853.46 ล้านบาท
  • P/E : 10.33 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 3.37 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 0.03 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 3,655.06 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 399.20 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 10.92 %

10.ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น CREDIT

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 19,725.11 ล้านบาท
  • P/E : 6.41 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : –
  • เงินปันผลล่าสุด : –
  • รายได้รวม : 4,512.73 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 449.58 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 9.96 %

และ อีก 2 หุ้นสุดท้าย ของหุ้นในกลุ่มธนาคาร คือ

11.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น BAY

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 179,480.59 ล้านบาท
  • P/E : 5.64 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : 3.48 %
  • เงินปันผลล่าสุด : 0.45 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 51,436.27 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 7,542.61 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 14.92 %

12.ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ข้อมูลสำคัญของหุ้น CIMB

  • มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด : 15,670.02 ล้านบาท
  • P/E : 11.18 เท่า
  • อัตราผลตอบแทน : –
  • เงินปันผลล่าสุด : 0.01 บาท/หุ้น
  • รายได้รวม : 5,565.30 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 626.11 ล้านบาท
  • อัตรากำไรสิทธิ : 11.25 %

การจัดอันดับนี้อ้างอิงข้อมูลจากไตรมาสที่ 1ของปี 2567 หุ้นธนาคารอื่น ๆ อาจจะต้องรอจังหวะที่ราคาหุ้นปรับ หรือผู้บริหารมีการเปลี่ยนกลยุทธ์ที่ใช้ในการจัดการเงินกองทุนของตัวเอง สำหรับมือใหม่ที่ต้องการข้อมูล การเลือก หุ้นแบงก์ ตัวไหนดี อยากให้คอยติดตามไว้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตค่ะ

สรุป

หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหุ้นอีกหนึ่งประเภทที่น่าลงทุน เนื่องจากเป็นหุ้นที่ได้รับเงินปันผลสม่ำเสมอ ค่อนข้างมั่นคง เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่น ๆ เพื่อน ๆ ที่สนใจในหุ้นกลุ่มธนาคาร จำเป็นจะต้องวิเคราะห์ถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและราคาหุ้นด้วยนะคะ เช่น การขยายตัวทางเศรษฐกิจ วิกฤตทางการเงิน นโยบายภาครัฐ หรือแม้กระทั่งการเมือง เพราะล้วนมีผลต่อการตัดสินใจในการลงทุนทั้งสิ้นค่ะ และบทความ10 อันดับ หุ้นธนาคารที่เติบโตมากที่สุด ปี 2024(2567)นี้ เป็นเพียงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มธนาคารเพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ.

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *